สัญลักษณ์ความชั่วร้าย ความหมายที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา

สัญลักษณ์ความชั่วร้าย เบื้องหลังของความหมายเหล่านี้ ความชั่วร้ายเป็นแนวคิดกว้าง ๆ ที่มีสัญลักษณ์มากมายที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด สิ่งเหล่านี้อาจเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่คำ เครื่องหมาย เครื่องหมาย หรือแม้แต่สิ่งของ สัตว์ หรือตัวเลข

นกกา

ตลอดประวัติศาสตร์นกกามักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายและความตาย อาจเป็นเพราะพวกมันกินซากสัตว์และไล่ตามซากศพ แม้ว่าพวกมันจะมีความหมายเชิงบวกหลายประการ เช่น สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ความรัก อายุยืนยาว แสงสว่าง และการนำทาง ในตำนานส่วนใหญ่พวกมันเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย ความมืด และความชั่วร้าย

อีกาถือเป็นนกแห่งความตายในวัฒนธรรมส่วนใหญ่ การกล่าวถึงนกกาเพียงอย่างเดียวสามารถทำให้เกิดภาพแห่งความสกปรกและความตายได้ โดยนกจะกินซากศพและเน่าเปื่อย นกกาตัวเดียวที่บินอยู่เหนือบ้านมักจะถือเป็นสัญญาณว่าความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อมในเรื่องราวใน พระคัมภีร์ไบเบิล ที่มีชื่อเสียงเรื่องโนอาห์และเรือโนอาห์ 

โนอาห์ส่งนกกาและนกพิราบออกไปเพื่อค้นหาที่ดิน นกตัวแรกที่โนอาห์ส่งไปคือนกกา ซึ่งสามารถตีความได้ว่าเป็นการกำจัดความชั่วร้ายออกจากเรือ อีกาไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจ มันกลับบินออกไปจากหีบและกินซากสัตว์ด้วยความหิวโหย ในทางกลับกัน นกพิราบกลับมาพร้อมกับกิ่งมะกอกในจะงอยปาก

งูพิษ สัญลักษณ์ความชั่วร้าย ตัวแทนของความตาย ยาพิษ

งูเป็นสัญลักษณ์สากลอันซับซ้อนที่ทราบกันดีว่าเป็นตัวแทนของความตาย ความชั่วร้าย ยาพิษ และการทำลายล้าง งูมีความเกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์ การรักษา การเกิดใหม่ และการต่ออายุ เนื่องจากพวกมันจะผลัดผิวหนัง ในยุคกรีกโบราณ อียิปต์ และอเมริกาเหนือ งูถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ

ในขณะที่ตำนานโบราณส่วนใหญ่มองงูในแง่ดี แต่พวกเขามักจะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายในตะวันตก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลของศาสนาคริสต์ ในประเพณีของชาวคริสต์ งูมีทั้งความหมายเชิงลบและเชิงบวก แต่ความสัมพันธ์เชิงลบนั้นแข็งแกร่งกว่าและเป็นที่รู้จักมากกว่า

มันคือซาตานที่ปลอมตัวเป็นงูซึ่งหลอกอีฟให้ไม่เชื่อฟังพระเจ้าและกินผลไม้ต้องห้าม ซึ่งส่งผลให้เธอตกอยู่ในสวนเอเดน ในกรณีนี้ งูเป็นตัวแทนของการหลอกลวง การล่อลวง และความชั่วร้าย พญานาคมีบทบาทสำคัญในศาสนาตะวันออกของศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู และศาสนาเชน 

ผู้คนพูดถึงเผ่าพันธุ์กึ่งเทพในตำนานที่เรียกว่านาค (ภาษาสันสกฤตสำหรับ “งู”) ซึ่งเป็นครึ่งคนครึ่งงูเห่าเมื่อพญานาคมีจำนวนมากเกินไปบนโลก เชื่อกันว่าพระพรหมของศาสนาฮินดูได้ขับไล่พวกมันไปยังอาณาจักรใต้ดิน

คำสาปปีศาจ

คำสาปนัยน์ตาชั่วร้ายไม่ใช่สัญลักษณ์ แต่เป็นแนวคิด อย่างไรก็ตาม มีสัญลักษณ์หลายอย่างเพื่อปัดเป่านัยน์ตาชั่วร้ายและปกป้องผู้สวมใส่จากมัน แนวคิดเรื่องนัยน์ตาชั่วร้ายมีชื่อเสียงในหมู่อารยธรรมยิว คริสต์ มุสลิม พุทธ และฮินดู และกล่าวกันว่าเกิดขึ้นในวัฒนธรรมกรีก มีประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนกลับไปถึง 3,000 ปีก่อนคริสตกาล

นัยน์ตาปีศาจ หรือที่เรียกว่า นาซาร์, mauvais oeil หรือ มาเทียสมา ในภาษากรีก เป็นคำสาปที่ส่งสายตามุ่งร้ายไปที่เหยื่อ เชื่อกันว่าการได้รับดวงตาปีศาจจะนำความโชคร้ายโชคร้ายหรือการบาดเจ็บมาให้ในหลายวัฒนธรรม ตามตำนานมีดวงตาปีศาจอยู่สามแบบ ประการแรกคือดวงตาปีศาจที่รู้ตัวว่าทำอันตรายต่อผู้คนและวัตถุโดยไม่ได้ตั้งใจ

ประเภทที่สองพยายามสร้างความเสียหายโดยเจตนา และประเภทที่สามน่ากลัวที่สุด – ความชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นซึ่งยังมองไม่เห็น ผู้ที่เชื่อในนัยน์ตาชั่วร้ายหาวิธีต่างๆ เพื่อป้องกันตัวเองและคนที่ตนรักจากมัน เครื่องรางของขลังยอดนิยม ได้แก่มือฮัมซาและนาซาร์ บอนคูกู

รูปดาวห้าแฉกคว่ำ

รูปดาวห้าแฉกเป็นรูปดาวห้าแฉกคว่ำ กล่าวกันว่าจุดทั้งห้าของดาวเป็นตัวแทนของธาตุทั้งห้า ได้แก่ อากาศ น้ำ ไฟ ดิน และวิญญาณ โดยวิญญาณจะอยู่ด้านบนสุด อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับด้าน มันหมายถึงการพลิกกลับของระเบียบธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดความชั่วร้ายและความวิปริต

ในตำแหน่งกลับหัว รูปดาวห้าแฉกเป็นสัญลักษณ์อักษรอียิปต์โบราณของ บาโฟเมต หรือที่รู้จักกันในชื่อแพะมนต์ดำหรือแพะสะบาติกใช้ในลัทธิไสยเวทและลัทธิซาตาน สัญลักษณ์แสดงรูปแพะที่มีหัวอยู่ตรงกลาง และเขา (จุดสองแฉกของดาว) ทะลุท้องฟ้า ในศาสนาคริสต์ เครื่องหมายนี้แสดงถึงการปฏิเสธการครอบงำของศาสนาคริสต์เหนือสังคม

บาโฟเมต Baphomet

บาโฟเมต เป็นเทพที่มีเศียรเป็นแพะซึ่งมักจะพบเห็นได้ในสังคมลึกลับและซาตาน ในขั้น ต้น Baphomet เป็นเทพที่บูชาโดยอัศวินเทมพลาร์ ต่อมา Baphomet มีความเกี่ยวข้องกับ Sabbatic Goat ซึ่งเป็นภาพที่วาด

โดย เอลิฟาส เลวีนักไสยศาสตร์ชื่อดัง ตามแหล่งที่มาบางแหล่ง คริสเตียนยุคแรกสร้างสิ่งที่คล้ายคลึงกันระหว่างปีศาจกับแพนเทพเจ้ากรีก (ที่มีรูปร่างคล้ายแพะ) เพื่อประณามการปฏิบัตินอกรีตที่มีอยู่ก่อนแล้ว

สัญลักษณ์ความชั่วร้าย ของซาตอน หมายเลข 666

ตามหนังสือวิวรณ์ 13:18 หมายเลข 666 เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘หมายเลขปีศาจ’ เรียกอีกอย่างว่า ‘จำนวนสัตว์ร้าย’ หรือ ‘จำนวนมาร’ ในศาสนาคริสต์ เชื่อกันว่าเป็นเลขที่ใช้เรียกซาตาน ลึกลับและสุดแปลก บางคนจริงจังกับเรื่องนี้มากจนหลีกเลี่ยงทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขหรือตัวเลข อย่างไรก็ตาม มีคำอธิบายที่น่าสนใจว่า เลข 666 ในพระคัมภีร์หมายถึง จักรพรรดิแนโร คุณสามารถตรวจสอบได้ที่นี่

ไม้กางเขนกลับหัว

ไม้กางเขนละตินกลับหัวเป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับความชั่วร้ายและอุดมคติของซาตาน ซึ่งมักใช้ในวัฒนธรรมสมัยนิยมเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านชาวคริสต์ เชื่อกันว่าหมายถึงความชั่วร้าย (หรือปีศาจ) ที่ซุ่มซ่อนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม กากบาทกลับด้านยังมีความหมายเชิงบวกบางประการอีกด้วย

ตามตำนาน อัครสาวกเปโตรถูกตรึงบนไม้กางเขนกลับหัวในระหว่างการปกครองของจักรพรรดินีโรแห่งโรมัน นักบุญเปโตรรู้สึกไม่คู่ควรที่จะถูกตรึงแบบเดียวกับพระเยซู ดังนั้นท่านจึงเลือกไม้กางเขนกลับหัวสำหรับตัวท่านเอง ในกรณีนี้ ไม้กางเขนแสดงถึงความถ่อมใจในความเชื่อ

ดังนั้น แม้ว่าการเห็นไม้กางเขนกลับหัวอาจดูน่าตกใจ แต่มันเริ่มต้นจากสัญลักษณ์เชิงบวก ต้องบอกว่า ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนไม้กางเขนกลับหัว โปรดทราบว่าการกลับไม้กางเขน เช่น ไม้กางเขนที่มีรูปพระเยซูอยู่บนนั้น ถือว่าไม่สุภาพและน่ารังเกียจ ในขณะที่ไม้กางเขนกลับหัวแบบง่ายๆ นั้นไม่ใช่

สวัสดิกะ สัญลักษณ์ความชั่วร้าย นาซี

สวัสดิกะเป็นคำสันสกฤตที่มีความหมายว่า “เอื้ออำนวยต่อความเป็นอยู่ที่ดี” และมีความหมายเชิงบวกหลายประการในศาสนาตะวันออกหลายแห่ง ในพุทธศาสนาเป็นสัญลักษณ์ของรอยพระพุทธบาทในขณะที่ศาสนาเชนทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ในพิธี ในศาสนาฮินดู ใช้สัญลักษณ์ตามเข็มนาฬิกา

นอกจากนี้ ยังมีการพบเครื่องหมายสวัสดิกะสลักอยู่บนเหรียญในเมโสโปเตเมีย และในอเมริกา ชาวนาวาโฮมักจะทอสัญลักษณ์ที่คล้ายกันไว้ในผ้าห่ม อย่างไรก็ตาม เครื่องหมายบวกของเครื่องหมายสวัสดิกะถูกทำให้เสื่อมเสียไปหลังจากที่พรรคนาซีในเยอรมนีประกาศใช้ วันนี้มันถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเกลียดชังและความชั่วร้ายและถูกแบนในหลายส่วนของโลก

กะโหลกศีรษะ 

กะโหลกศีรษะมนุษย์เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นสัญลักษณ์ของหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นลบและชั่วร้าย บางคนมองว่ากะโหลกเป็นปีศาจและหลีกเลี่ยงการนำพวกมันเข้ามาในพื้นที่ทางกายภาพ หัวกะโหลกที่น่าสะพรึงกลัวถูกใช้ในวัฒนธรรมสมัยนิยมเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการฆาตกรรมและความตาย รวมถึงมนต์ดำ กะโหลกศีรษะที่มีกระดูกไขว้เป็นสัญลักษณ์ของอันตรายและมักเห็นบนขวดยาพิษหรือธงโจรสลัด

วันศุกร์ที่ 13 

วันศุกร์ที่ 13มีความหมายเหมือนกันกับโชคร้ายและไสยศาสตร์ และบางคนถึงกับเชื่อมโยงกับความชั่วร้าย สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ของเดือนตรงกับวันศุกร์ ไม่ทราบที่มาที่แท้จริงของความเชื่อโชคลาง แต่มีรากฐานมาจากประเพณีในพระคัมภีร์ไบเบิล 

พระเยซูและอัครสาวกทั้ง 12 คนอยู่ในกลุ่มผู้รับประทานอาหาร 13 คนที่เข้าร่วมอาหารค่ำมื้อสุดท้ายในวันพฤหัสบดีวันพุธหลังจากนั้นสาวกคนหนึ่งของยูดาสได้ทรยศต่อพระองค์ วันต่อมาคือวันศุกร์ประเสริฐวันแห่งการตรึงกางเขนของพระเยซู วันศุกร์และเลข 13 มีความเกี่ยวข้องกับโชคร้ายอยู่เสมอ แต่ทั้งสองไม่ได้ใช้ร่วมกันจนกระทั่งศตวรรษที่ 19

ตามตำนานนอร์สความชั่วร้ายและความขัดแย้งได้เข้าสู่จักรวาลเป็นครั้งแรกเมื่อเทพเจ้าโลกิ ผู้หลอกลวงและเจ้าเล่ห์ ปรากฏตัวในงานเลี้ยงอาหารค่ำในวัลฮัลลา เขาเป็นอาคันตุกะองค์ที่ 13 ซึ่งทำลายความสมดุลของเทพทั้ง 12 องค์ที่มาถึงแล้ว หลายคนเชื่อว่าวันศุกร์ที่ 13 จะนำโชคร้ายมาให้ เช่น เดินใต้บันได ข้ามทางกับแมวดำ หรือทำกระจกแตก

บาโฟเมตคือใคร?

บาโฟเมตคือเทพที่ว่ากันว่าเหล่าอัศวินเทมพลาร์เคารพบูชากันอย่างลับๆ เป็นซาตานในร่างแพะผู้ต่อต้านพระเจ้า

ทำไมต้องเป็นวันศุกร์ที่ 13 ?

วันศุกร์ถือว่าเป็นวันโชคร้ายของชาวคริสเตียน ส่วนเลข 13 เป็นตัวเลขแห่งความโชคร้าย เพราะลข 13 ไปคล้องกับจำนวนคน 13 คนที่รับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับพระเยซู

ทำไมต้องเป็นหมายเลข 666 ?

มีความเชื่อที่ว่า หมายเลข 6 เป็นเลขของมนุษย์ เนื่องจากคัมภีร์ไบเบิลเล่าว่าพระผู้เป็นเจ้าสร้างมนุษย์ในวันที่ 6 ขณะที่ซานตานนั้นถูกระบุว่าเป็นสิ่งมีชวิตที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง หมายเลขของซาตานน่าจะเกี่ยวพันกับหมายเลขของมนุษย์และเป็นที่มาของหมายเลข 666 นั่นเอง

บทสรุป

สัญลักษณ์บางอย่างในรายการนี้ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายในขณะที่สัญลักษณ์อื่น ๆ นั้นไม่ค่อยมีใครรู้จัก สัญลักษณ์เหล่านี้มักถูกมองว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายโดยบุคคลหรือชุมชนบางแห่ง 

ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ส่วนตัวหรือวัฒนธรรม ในขณะที่บางคนใช้สัญลักษณ์เหล่านี้อย่างจริงจังและเชื่อว่าการพบเจอสัญลักษณ์เหล่านี้หมายถึงความตายหรือหายนะ แต่ก็มีบางคนที่ไม่ต้องการสนใจสัญลักษณ์เหล่านี้โดยสิ้นเชิง

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : www.amongmen.com

ขอบคุณรูปภาพจาก : Mitja Juraja จาก www.pexels.com , Darkmoon_Art จาก pixabay.com