
เลือกตั้ง 2566 : “รังสรรค์” ไม่หวั่น เพื่อไทย หาเสียงเชียงราย เรื่องปกติ
“รังสรรค์ วันไชยธนวงศ์” ส.ส.เชียงราย รอบนี้ ย้ายมาสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย ลงเลือกตั้ง ไม่หวั่น กระแสพรรคเพื่อไทย เดินหน้าลงพื้นที่พบปะชาวบ้านต่อเนื่อง ชี้ เป็นเรื่องปกติ
วันที่ 26 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวติดตามบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งในการเลือกตั้งรอบนี้พื้นที่ จ.เชียงราย เป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 5 พื้นที่ อ.เทิง อ.ขุนตาล และ อ.พญาเม็งราย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของตระกูล “วันไชยธนวงศ์” ที่มีนายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.เชียงราย เขต 4 อดีตลูกหม้อของพรรคเพื่อไทย ที่รอบนี้เปลี่ยนไปสวมเสื้อยี่ห้อพรรคภูมิใจไทย ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 5 ส่งผลกระทบกับพรรคเพื่อไทย ที่ต้องคัดสรรบุคคลที่เหมาะสมมาเป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. มาอุดช่องโหว่จากการย้ายพรรคของนายรังสรรค์ จนกระทั่งพรรคเพื่อไทย ได้เลือกเอา ดร.เทอดชาติ ชัยพงศ์ อดีตข้าราชการครูและเลขานุการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาลงสมัครชิงคะแนนแทน
แต่จากการสำรวจความนิยมในเบื้องต้นพบว่า คะแนนนิยมยังตามห่าง พรรคเพื่อไทยจึงต้องยกทีมแกนนำพรรคมาปราศรัยใน อ.เทิง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา หวังให้คะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทย มาดึงคะแนนความนิยมให้กับตัวผู้สมัคร และยังหวังจะให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ในพื้นที่ จ.เชียงราย ตามเป้าหมายเดิม
ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสอบถามนายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ เจ้าของพื้นที่และครองตำแหน่ง ส.ส. ในพื้นที่มาทั้งหมด 3 สมัย ตั้งแต่พรรคพลังประชาชน จนมาเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน
นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ กล่าวว่า รอบนี้ตนลงรับสมัครเลือกตั้งในนามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในส่วนของ จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในจังหวัดที่กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดในเรื่องจำนวนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ว่า จะนับรวมผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนหรือไม่ หากทางศาลรัฐธรรมนูญลงความเห็นว่า ไม่เห็นชอบกับทาง กกต. ก็จะส่งผลให้จำนวนเขตเลือกตั้งของเชียงรายลดลงจาก 8 เขต เหลือแค่ 7 เขต เหมือนเดิม ตอนนี้ทางพรรคภูมิใจไทย ได้มอบหมายให้ตนดูแลในเรื่องการสรรหาผู้สมัคร ซึ่งเราได้ตัวว่าที่ผู้สมัครครบแล้วทุกเขต แต่สามารถเปิดตัวได้เลยมีทั้งหมด 7 คน ประกอบด้วย นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ นายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน นายทัศพงษ์ สุวรรณมงคล น.ส.มิรันตรี บุญแก้ว นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ นายพีระเดช คำสมุทร และนายเสน่ห์ ปัญญาดี ในส่วนความชัดเจนของผู้สมัครอีก 1 คน เราต้องรอให้ทางศาลรัฐธรรมนูญตัดสินชี้ขาดในวันที่ 3 มี.ค. ที่จะถึงนี้ก่อน
นายรังสรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องยอมรับว่า ใน จ.เชียงราย
เป็นพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยครองกระแสความนิยมจากชาวบ้านมานาน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการบริหารงานของรัฐบาลในช่วง 8 ปี ที่ผ่านมา อาจจะไม่ถูกใจของชาวบ้าน อาจจะมีส่วนที่ยังไม่เป็นที่พึงพอใจ แต่เมื่อเราตัดสินใจลงเลือกตั้งแล้ว ไม่ว่าจะมีกระแสอะไรก็ตามก็คงจะไม่ทำให้เราหวั่นไหว เพราะเรื่องสำคัญที่สุดของการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็คือ การลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง แต่ก็ยอมรับว่า กระแสพรรคก็มีส่วนในการตัดสินใจ แต่การเลือกตั้งในครั้งนี้ มีบัตร 2 ใบ ใบหนึ่งเลือกพรรคอีกใบหนึ่งเลือกคน ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนต่างก็มีดุลยพินิจ มีวิจารณญาณในการเลือกตัวผู้สมัครหรือพรรคที่เหมาะสม
นอกจากนี้ นายรังสรรค์ ยังได้กล่าวถึงประเด็นการย้ายพรรค จากพรรคเพื่อไทย มาอยู่พรรคภูมิใจไทยว่า หากเปรียบเทียบว่า พรรคการเมืองเป็นบ้านหนึ่งหลัง หากเราอยู่แล้วมีความสุขก็คงไม่มีใครอยากย้ายไปไหน แต่สำหรับตนคงไม่ใช่กรณีไม่มีความสุข เพราะตลอดระยะเวลาที่ตนอยู่กับพรรคเพื่อไทย ก็ได้รับความรักความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ในพรรคเป็นอย่างดี ความรู้สึกดีๆ ในช่วงที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย ก็ยังอยู่ในความทรงจำอยู่เสมอ แต่ในเส้นทางการเมืองเมื่อเดินมาถึงจุดหนึ่ง ที่เราต้องตัดสินใจก้าวเดิน ก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่หากถามว่า การออกจากพรรคไม่มีปัญหาเลยก็คงไม่ใช่ แต่ตนไม่อยากจะลงลึกในรายละเอียด ตอนนี้คงมีกระแสโจมตีตนมากมายว่า ถูกซื้อตัวบ้าง ไปขายตัวได้เงินได้ทองมากมายบ้าง คนที่ได้ติดตามข่าวสารที่ออกมาก็คงจะเข้าใจไปตามนั้น แต่สำหรับคนที่ได้เคยร่วมงานกับตนมาจะเข้าใจว่า ปัญหามันคืออะไร วันนี้ตนตัดสินใจออกจากพรรคเพื่อไทยมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่อยากจะไปกล่าวหาพรรคเดิมว่า เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตนคิดว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่ทางพรรคภูมิใจไทย ได้เคยรับปากไว้ก็ได้ทำตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้จริง ก็เลยถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแก้ปัญหาพี่น้องประชาชนได้มากขึ้น
สำหรับการมาลงพื้นที่หาเสียงของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ อ.เทิง ตนเห็นว่า เป็นเรื่องปกติที่แต่ละพรรคการเมืองจะมาลงพื้นที่หาเสียงเพื่อเรียกคะแนนนิยม เป็นไปตามหลักของประชาธิปไตยที่แต่ละพรรคก็มีสิทธิ์ที่จะมาเปิดเวทีปราศรัยหาคะแนน ขอความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกันในวันข้างหน้าก็อาจจะมีพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล หรือแม้แต่พรรคภูมิใจไทย ก็อาจจะมาลงพื้นที่เปิดเวทีปราศรัย ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนจะใช้วิจารณญาณว่า อยากจะได้พรรคการเมืองหรือผู้แทนแบบไหน ถือเป็นการดีที่ประชาชนจะได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากทุกๆ พรรค เพื่อประกอบการตัดสินใจ ตนก็สนับสนุนให้ทุกพรรคได้เข้ามาแสดงวิสัยทัศน์เพื่อที่พี่น้องประชาชนได้รับฟังนโยบายจากทุกฝ่ายและตัดสินใจเลือกด้วยตนเอง
“ตนอยากจะฝากบอกถึงพี่น้องประชาชนชาวเชียงรายที่มีสิทธิ์เลือกตั้งว่า คนที่จะมาลงสมัครรับเลือกตั้ง หากคิดแค่ว่าจะมาเกาะกระแสพรรค เขาก็อาจจะไม่ได้ตั้งใจจะมาดูแลพี่น้องประชาชนจริงๆ ลองคิดดูว่า ที่ผ่านมา ส.ส.ที่ท่านเลือกเข้าไป ได้เคยกลับมาลงพื้นที่พบปะรับฟังปัญหาดูแลพี่น้องประชาชนหรือเปล่า ตนไม่อยากจะบอกมาคนนั้นคนนี้ไม่ลงพื้นที่ แต่ตนอยากจะฝากบอกพี่น้องประชาชนว่า การเลือก ส.ส.เข้าไปเป็นตัวแทนของเรา ถ้าเราเลือกตามกระแสพรรค แต่เขากลับไม่สนใจพี่น้องประชาชน ผลกระทบก็จะมาตกอยู่กับพี่น้องประชาชนเอง อย่างที่พรรคภูมิใจไทย ได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ เรายอมรับว่า เราไม่มีกระแสพรรคเลย แต่ตนเน้นย้ำกับผู้ที่อาสาจะมาลงรับสมัครต้องยึดถือเอากระแสประชาชนเป็นหลัก ตนเน้นย้ำเสมอว่า หากเราละทิ้งประชาชน ไม่สนใจประชาชน พอถึงเวลาพี่น้องประชาชนก็จะไม่เลือกเรา หากต้องการให้พี่น้องประชาชนเลือกเรา ก็ต้องยึดติดกับพี่น้องประชาชน ต้องให้พี่น้องประชาชนได้เข้าพบโดยง่าย วันนี้ตนอยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวเชียงราย ว่า ที่ผ่านมาเราอยู่กับพรรคการเมืองเดิมๆ มานาน วันนี้ตนตัดสินใจมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เพราะคิดว่า เราจะสามารถสร้าง พัฒนา หรือยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนชาวเชียงราย จึงอยากจะชวนให้มาลองเปลี่ยนกับตนดูสักครั้ง ตนมั่นใจว่า ผู้สมัครทุกคนมีความตั้งใจและมีความคิดอยากจะมาพัฒนาเชียงราย การเมืองมันไม่นาน แค่เพียง 4 ปี หากเลือกเข้าไปแล้วเห็นว่าไม่ดี ทำไม่ได้อย่างที่พูด ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ไม่ต้องเลือกเรากลับมา แต่ถ้าคิดว่า ตลอดระยะที่ผ่านมาพอสมควรยังไม่เห็นการพัฒนาในจังหวัดเชียงราย ก็อยากเชิญชวนให้ลองมาเปลี่ยนกับตนดูสักครั้ง” นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ กล่าว
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net