
ผู้โดยสารสายการบิน 2 รายที่ถูกกล่าวหาว่า “ประพฤติตัวไม่เหมาะสม” ถูกปรับจำนวนเงินมากที่สุดโดยสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (US Federal Aviation Administration)
บทลงโทษห้าร่างสำหรับผู้โดยสารสองคนที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงเป็นส่วนหนึ่งของค่าปรับที่เรียกเก็บในปีนี้มูลค่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (£ 1.5m)
สายการบินสหรัฐได้เห็นจำนวนผู้โดยสารที่ก่อกวนเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ต้นปี 2564 โดยมีเหตุการณ์มากมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิเสธที่จะสวมหน้ากากต้านไวรัส
ค่าปรับได้รับการประกาศโดย Pete Buttigieg รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเมื่อวันศุกร์
“ถ้าคุณอยู่บนเครื่องบิน อย่าทำตัวงี่เง่า อย่าทำอันตรายต่อลูกเรือและผู้โดยสาร” เขากล่าวในการปรากฏตัวในรายการ The View ของ ABC “ถ้าคุณทำ คุณจะถูกปรับโดย FAA”
ในเหตุการณ์หนึ่ง ผู้โดยสารของ American Airlines ที่เดินทางจากเท็กซัสไปยังนอร์ทแคโรไลนา ถูกขอให้จ่ายค่าปรับ 81,950 ดอลลาร์ ฐานขู่ว่าจะทำร้ายพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
ผู้ดูแลได้เสนอที่จะช่วยผู้โดยสารหลังจากที่เธอตกลงไปในทางเดินของเครื่องบิน
ผู้โดยสารที่ไม่ระบุชื่อถูกกล่าวหาว่าผลักพนักงานสายการบินและพยายามเปิดประตูห้องโดยสาร ขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพยายามจะรั้งเธอ เธอตีหัวเจ้าหน้าที่คนหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อเธอถูกใส่กุญแจมือ “เธอถุยน้ำลาย ตบหัว กัด และพยายามเตะลูกเรือและผู้โดยสารคนอื่นๆ” FAA ระบุในการแถลงข่าว
ในอีกเหตุการณ์หนึ่ง ผู้โดยสารกำลังบินกับเดลต้าแอร์ไลน์จากลาสเวกัสไปยังแอตแลนต้า
เธอถูกกล่าวหาว่าพยายาม “กอดและจูบผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ เธอ เดินไปที่ด้านหน้าของเครื่องบินเพื่อพยายามออกระหว่างเที่ยวบิน ปฏิเสธที่จะกลับไปที่ที่นั่งของเธอ และกัดผู้โดยสารคนอื่นหลายครั้ง”
ผู้โดยสารรายนั้นซึ่งไม่มีชื่อเช่นกันถูกกักขังโดยลูกเรือ และขณะนี้ถูกขอให้จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 77,272 ดอลลาร์
ไม่มีเหตุการณ์ใดที่เกี่ยวข้องกับการไม่ปฏิบัติตามมาตรการโควิด
ในการให้สัมภาษณ์กับ The View นาย Buttigieg กล่าวว่าสหรัฐฯ จะตัดสินใจภายในวันที่ 18 เมษายน ว่าจะขยายข้อกำหนดของรัฐบาลกลางในการสวมหน้ากากบนเครื่องบินและในสนามบินหรือไม่
FAA ได้ประกาศนโยบาย “ไม่มีความอดทน” ต่อผู้โดยสารที่เกเรในเดือนมกราคม 2564 และได้ออกค่าปรับ 7 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่นั้นมา
พวกเขาได้บันทึกเหตุการณ์ความโกรธแค้นทางอากาศ 7,060 ครั้งและกล่าวว่าประมาณ 70% เกี่ยวข้องกับกฎการปิดบัง แต่อัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลง 60% นับตั้งแต่ปีที่แล้ว
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ที่ have-a-look.net
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก www.bbc.com
ขอบคุณรูปภาพจาก Austin Zhang – Sami Aksu จาก Pexels