
(29 มิถุนายน 2564) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรี
ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ 2 เรื่อง คือ เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านนโยบายภาษาแห่งชาติ
(พ.ศ. 2564-2565) และอนุมัติหลักการและกรอบหลักเกณฑ์การขอยื่นกู้สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบธุรกิจ
(สินเชื่อฟื้นฟู) เพื่อช่วยโรงเรียนเอกชนเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านนโยบายภาษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2564-2565)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานราชบัณฑิตยสภา เสนอ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านนโยบายภาษาแห่งชาติ
(พ.ศ. 2564 – 2565) แนวคิด กรอบแนวคิดหลักในการพัฒนาแผนปฏิบัติการฯ คือ “ภาษาเพื่อสันติสุขที่ยั่งยืน”
ประกอบด้วยหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
1) ภาษาเพื่อการดำรงอยู่ของอัตลักษณ์ชุมชนและความสมานฉันท์ของคนในชาติ
2) ภาษาเพื่อการรับรู้ เข้าใจ และการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน
3) ภาษาเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ประเด็นที่สำคัญที่สุดในการพัฒนากรอบแนวคิดนี้ คือ
การใช้ภาษาแม่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาการเรียนรู้ภาษาไทยที่เป็นภาษาราชการ
และเชื่อมโยงไปสู่การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เนื่องจากสอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ภาษาของมนุษย์
โดยไม่ละเลยการใช้ภาษาท้องถิ่นและภาษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส วิสัยทัศน์ “รู้ใช้-รู้รักษ์ภาษาไทย เปิดใจรับสิทธิทางภาษา
พัฒนาทักษะภาษาระดับสากล สู่สังคมสันติสุขอย่างยั่งยืน” เป้าหมาย คนในสังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของภาษา
เห็นคุณค่า และยอมรับความแตกต่างของภาษาและสังคมวัฒนธรรม สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมไทย
และสังคมโลกอย่างสันติสุขและยั่งยืน โดยมีเป้าหมายรองรับคือ
1) ภาษาไทยได้รับการธำรงรักษาและพัฒนาอย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง
2) คนทุกกลุ่มในสังคมไทยสามารถใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3) คนในท้องถิ่นใช้ภาษาท้องถิ่นอย่างกว้างขวางขึ้น อีกทั้งส่งเสริมให้ใช้ภาษาท้องถิ่นในการศึกษาควบคู่กับภาษาไทย
4) นักแปลและล่ามแปลมีมาตรฐานวิชาชีพ ล่ามภาษามือที่มีคุณภาพมีจำนวนมากขึ้น
5) คนไทยที่สามารถใช้ภาษาต่างประเทศและภาษาเพื่อนบ้านมีจำนวนมากขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ตัวชี้วัด ประกอบด้วย 12 ตัวชี้วัด ได้แก่
1) จำนวนโครงการ/กิจกรรมที่แสดงออกถึงการยอมรับความหลากหลายของภาษาและวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น
2) อัตราการรู้หนังสือและความสามารถในการใช้ภาษาไทยของประชากรไทยเพิ่มขึ้น
3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 6
จากการทดสอบระดับชาติ (O-NET) มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าร้อยละ 50
4) จำนวนผลงานวิจัยด้านหลักภาษาไทยและวรรณกรรมไทยเพิ่มขึ้น
5) จำนวนหลักสูตรและการฝึกอบรมภาษาไทยเพิ่มขึ้น
6) ร้อยละของสถานศึกษาที่ใช้ภาษาท้องถิ่นควบคู่กับภาษาไทยเป็นสื่อในการสอนเพิ่มขึ้น
7) ร้อยละของโครงการที่ส่งเสริมการใช้ การเรียนรู้ การอนุรักษ์ การพัฒนาภาษาท้องถิ่นเพิ่มขึ้น
8) มีมาตรฐานวิชาชีพนักแปลและล่ามแปล
9) มีสภาวิชาชีพการแปลและการล่าม
10) ร้อยละ 70 ของล่ามภาษามือที่ลงทะเบียนได้รับใบรับรองมาตรฐาน
11) จำนวนการสอนหรืออบรมภาษาต่างประเทศและภาษาเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น
12) จำนวนรายการในสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ภาษาต่างประเทศและภาษาเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น ประเด็นยุทธศาสตร์
ประกอบด้วย 6 ประเด็นยุทธศาสตร์ ได้แก่
1) ขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่การยอมรับการเป็นสังคมพหุลักษณ์และมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
และยั่งยืนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ หน่วยงานหลัก : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง : เช่น กระทรวงการต่างประเทศ (กต.)
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กระทรวงแรงงาน (รง.)
2) พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของคนในชาติด้วยการเรียนรู้ภาษาที่หลากหลาย หน่วยงานหลัก : ศธ.
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง : เช่น อว. มท. วธ.
3) ส่งเสริมการใช้ภาษาไทยในฐานะภาษาประจำชาติและปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
การเรียนรู้ภาษาของมนุษย์ หน่วยงานหลัก : อว. ศธ. รภ. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง : เช่น มท. รง. วธ. กรมประชาสัมพันธ์
4) รักษา สืบทอดการใช้ภาษาท้องถิ่น หรือภาษาแม่ทั้งในชีวิตประจำวันและในระบบการศึกษา
หน่วยงานหลัก : อว. มท. วธ. ศธ. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง : เช่น พม. รภ. สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
5) พัฒนาทักษะและความสามารถทางด้านภาษาเพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
หน่วยงานหลัก : กต. พม. อว. ศธ. รภ. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น มท. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
รง. สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) สมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย สมาคมล่ามภาษามือ
6) ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยและสื่อเพื่อการสื่อสาร การดำรงชีวิต และรักษาสิทธิขั้นพื้นฐานให้
กับกลุ่มคนด้อยโอกาส หน่วยงานหลัก : พม. รง. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง : เช่น กต. มท. วธ. ศธ.
แนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ
1) สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญและพร้อมเข้าร่วมในการผลักดันแผนปฏิบัติการ
ด้านนโยบายภาษาแห่งชาติไปสู่การปฏิบัติ
2) เสริมสร้างบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคีการพัฒนาในการจัดทำแผนปฏิบัติการในระดับ ต่าง ๆ
ที่บูรณาการเชื่อมโยงกับแผนปฏิบัติการด้านนโยบายภาษาแห่งชาติ
3) สร้างความเชื่อมโยงระหว่างแผนปฏิบัติการด้านนโยบายภาษาแห่งชาติกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ
และแผนยุทธศาสตร์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4) จัดทำแผนงานการจัดสรรงบประมาณแบบมีส่วนร่วม เพื่อสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดลำดับความสำคัญ
ของภารกิจหน่วยงานที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาภายใต้แผนปฏิบัติการฯ
5) การสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการขับเคลื่อนแผนของภาคีการพัฒนาต่าง ๆ
6) ติดตามประเมินผลแผนปฏิบัติการด้านนโยบายภาษาแห่งชาติโดยให้ความสำคัญกับการติดตามความก้าวหน้า
การประเมินผลสำเร็จและผลกระทบของการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตามประเด็นการพัฒนาตามแผนปฏิบัติการ
และผลการพัฒนาในภาพรวม ประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น
1) ประชาชนชาวไทยทุกคนได้เรียนรู้และใช้ภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2) ประชาชนชาวไทยดูแลรักษาและส่งเสริมสนับสนุนภาษา วรรณกรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น
3) คนพิการสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการของรัฐ
4) ประชาชนทุกคนมีความสามารถในการใช้ภาษานานาชาติและภาษาประเทศเพื่อนบ้าน
5) ผู้แสวงหางานทำในประเทศไทยใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
อนุมัติหลักการและกรอบหลักเกณฑ์การขอยื่นกู้สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนเอกชน
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง เสนอหลักการและกรอบหลักเกณฑ์การขอยื่นกู้สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบธุรกิจ
(สินเชื่อฟื้นฟู) ซึ่งจะช่วยโรงเรียนเอกชนที่เก็บเงินค่าธรรมเนียมการศึกษาหรือค่าธรรมเนียมอื่น ได้แก่ โรงเรียนเอกชนที่รับเงินอุดหนุน
โรงเรียนเอกชนที่ไม่รับเงินอุดหนุนทั้งประเภทสามัญ โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนเอกชนนอกระบบประเภทวิชาชีพ
โรงเรียนเอกชนนอกระบบประเภทศิลปะและกีฬา โรงเรียนเอกชนนอกระบบประเภทสร้างเสริมทักษะชีวิต
โดยโรงเรียนเอกชนสามารถกู้ได้ไม่เกินรายละ 20 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2% ระยะเวลา 6 เดือนแรก รัฐบาลจะช่วยเหลือด้วยการจ่ายดอกเบี้ยแทน