สื่อทางการของเกาหลีเหนือได้เรียกร้องให้เยาวชนของตนไม่ใช้คำแสลงจากเกาหลีใต้ และบอกให้พวกเขาพูดภาษามาตรฐานของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ ยังมีคำเตือนใหม่ในหนังสือพิมพ์ทางการของเกาหลีเหนือเกี่ยวกับการนำแฟชั่น ทรงผม และดนตรีของเกาหลีใต้ไปใช้
มันเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายใหม่ที่ครอบคลุมซึ่งพยายามขจัดอิทธิพลจากต่างประเทศด้วยบทลงโทษที่รุนแรง
ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอาจถูกจำคุกหรือกระทั่งถูกประหารชีวิต
หนังสือพิมพ์ Rodong Sinmun เตือนคนรุ่นมิลเลนเนียลถึงอันตรายของการติดตามวัฒนธรรมป๊อปของเกาหลีใต้
“การแทรกซึมทางอุดมการณ์และวัฒนธรรมภายใต้ป้ายสีสันสดใสของชนชั้นนายทุนนั้นอันตรายยิ่งกว่าศัตรูที่ถือปืน” บทความอ่าน
โดยเน้นว่าภาษาเกาหลีที่มีพื้นฐานมาจากเปียงยางนั้นเหนือกว่า และคนหนุ่มสาวควรใช้อย่างถูกต้อง
เมื่อเร็วๆ นี้ เกาหลีเหนือพยายามขจัดคำแสลงของเกาหลีใต้ เช่น ผู้หญิงที่เรียกสามีของเธอว่า “อปป้า” ซึ่งแปลว่า “พี่ชาย” แต่มักใช้เพื่ออ้างถึงแฟนหนุ่ม
อิทธิพลจากต่างประเทศถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อระบอบคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ และเป็นผู้นำสูงสุด คิมจองอึนที่กุมอำนาจ
เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาระบุว่า K-pop เป็น “มะเร็งร้าย” ที่ทำลายเยาวชนของเกาหลีเหนือตามรายงานของ New York Times
ใครก็ตามที่จับได้กับสื่อจำนวนมากจากเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา หรือญี่ปุ่น จะต้องถูกลงโทษประหารชีวิต ผู้ที่ถูกจับได้ดูต้องเข้าค่ายกักขังนานถึง 15 ปี
แต่ถึงแม้จะมีความเสี่ยง แต่อิทธิพลจากต่างประเทศยังคงซึมเข้าสู่ภาคเหนือ และกลุ่มลักลอบขนสินค้าที่มีความซับซ้อนสูงเพื่อนำสื่อที่ถูกสั่งห้ามเข้ามาดำเนินการ
ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือบางคนกล่าวว่าการดูละครเกาหลีใต้มีส่วนในการตัดสินใจหลบหนี
Yang Moo-jin ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย North Korean Studies บอกกับ Korea Heraldว่า Kim ที่ได้รับการศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ “ตระหนักดีว่า K-pop หรือวัฒนธรรมตะวันตกสามารถซึมซับเข้าสู่คนรุ่นใหม่ได้ง่ายและมีผลเสีย กระทบต่อระบบสังคมนิยม”
“เขารู้ว่าแง่มุมทางวัฒนธรรมเหล่านี้อาจสร้างภาระให้กับระบบ ดังนั้นด้วยการขจัดออกไป คิมจึงพยายามป้องกันปัญหาอื่นๆ ในอนาคต”
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ที่ have-a-look.net
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก www.bbc.com
ขอบคุณรูปภาพจาก AFP ผ่าน GETTY IMAGES // เก็ตตี้อิมเมจ