SisterS กระสือสยาม ความพยายามที่จะแตกต่าง ไซไฟแฟนตาซี

ความพยายามที่จะแตกต่าง SisterS กระสือสยาม ผลงานเรื่องล่าสุด ปรัชญา ปิ่นแก้ว

SisterS กระสือสยาม ที่นำเอาตำนานผีไทยลากไส้มาตีความใหม่ให้มีความทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบันมากขึ้น เรียกได้ว่าออกแนวไซไฟแฟนตาซีผสมความเป็นแอคชั่นนิด ซึ่งงานนี้ได้สองสาวรุ่นใหม่ โจ้ พลอยยุคล และ มิวนิค นันท์นภัส มาแสดงนำ ร่วมด้วย หญิง รฐา และ ต๊อก ศุภกรณ์

SisterS กระสือสยาม ว่าด้วยเรื่องราวของความรักความผูกพันของ โมรา และ วีณา สองสาวพี่น้อง เมื่อคนหนึ่งกำลังรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามสายเลือดนักล่า และอีกคนต้องยอมพลีทั้งชีวิตฝึกฝนวิชาเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญชาตญาณนักฆ่า จากความแค้นที่ฝังลึกในอดีตกับกระสือคู่อาฆาต สู่การต่อสู้กับชะตากรรมที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงที่ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าจะสิ้นสุดอย่างไร

อย่างที่เห็นในโปรแกรมฉายหนังบ้านเราว่าในปีนี้คอหนังจะได้ชมเรื่องราวของกระสือกันถึงสองเรื่อง แถมยังเข้าฉายไล่เลี่ยกันอีกด้วย อย่าง แสงกระสือ เป็นเรื่องแรกที่เข้าฉายก็เรียกได้ว่าทำเงินและมีกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนหนังมากทีเดียว แน่นอนว่าความกดดันของ กระสือสยาม ที่เข้าฉายทีหลังย่อมมีมากขึ้น

ด้วยวิธีการเล่าเรื่องและการตีความที่ต่างกันนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า แสงกระสือ มีภาษีที่ดีกว่า ทั้งได้เข้าฉายก่อน ความสดใหม่ของนักแสดง เรื่องราวเป็นธรรมชาติแบบบ้านๆ ที่หลายคนคุ้นเคยมาก่อนแล้ว จึงเป็นเรื่องน่าหนักใจทีเดียวหากนำทั้งกระสือทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน เพราะต่างก็ให้รสชาติกันคนละแบบ

โดยส่วนตัวนั้นค่อนข้างถูกจริตกับความบ้านๆ ของ แสงกระสือ เสียมากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบ กระสือสยาม ด้วยความที่หนังได้ตีความเรื่องนี้ออกมาแบบไซไฟแฟนตาซี ให้กระสือเปรียบเสมือนโรคชนิดหนึ่งและสัตว์ประหลาด

แล้วนำมาผูกกับเรื่องราวการล้างแค้น ภาพรวมก็ถือว่าหนังทำออกมาได้ค่อนข้างดี แม้จะไม่ได้สนุกมาก แต่ก็ดูได้เพลินๆ แอบใส่จังหวะตุ้งแช่ให้ได้ตกใจกันหลายรอบอยู่ แต่การตีความกระสือใหม่มันยังดูไม่ค่อยลงตัวเท่าที่ควร

ความไม่สมเหตุสมผลก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราไม่ค่อยอินกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลายๆ อย่าง แต่หากมองข้ามไปแล้วถือเสียว่าดูเอาเพลินๆ เปิดรับสิ่งใหม่ก็ถือว่าไม่เลวเลย แม้หลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างอาจจะไม่ถูกใจไปบ้าง แต่ในส่วนของนักแสดงถือว่าทำได้ดีทีเดียว

ทั้ง โจ้ พลอยยุคล ที่คงคาแรคเตอร์เด็กรุ่นใหม่เข้ากับสมัยปัจจุบันได้ดี อาจจะติตรงที่เสียงพูดตอนบรรยายเรื่องราวที่ไม่ค่อยสมูท ส่วน มิวนิค นันท์นภัส ก็ยังคงรักษาคุณภาพทางการแสดงได้ดี ไม่เสียชื่อที่เข้าวงการการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ดูแล้วชุ่มชื่นหัวใจ ส่วนรุ่นพี่อย่าง หญิง รฐา และ ต๊อก ศุภกรณ์ นั้นหายห่วงอยู่แล้ว

ส่วนในเรื่องเทคนิคพิเศษ CG ต่างๆ ถือว่ายังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่หวังไว้ ฉากกระสือลากไส้นี่ภาพลอยมาก แต่ก็ชอบตรงที่ดีไซน์กระสือออกมาได้น่าเกลียดดี ดูที่เป็นเส้นๆ ชัดๆ มีความเหมือนไส้เดือนพอจะกำจัดศัตรูก็สามารถแผ่ตรงปลายคล้ายเอเลี่ยนไปอีก บอกเลยว่าสยองจริงๆ ท้ายที่สุดแล้วจะชอบหรือไม่ชอบก็ลองไตร่ตรองกันดู

รีวิวหนัง โหด มัน ฮา แบบไม่เหมือนใคร เอาใจคนชอบบทสรุปของหนังไทย หนังเทศ หนังชนโรง หนังออนไลน์ ไปจนถึงหนังฮิต ติดลมบน ของ Netflix  ติดตามอ่านทั้งหมด ได้ที่  have-a-look.net