เจ้าหน้าที่ระบุว่า จำนวนผู้สูญหายหลังจากการถล่มของอาคารสูง 12 ชั้นในเมืองไมอามีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 159 คน เป็นที่ยืนยันในขณะนี้ว่ามีผู้เสียชีวิต 4 คน
นายกเทศมนตรีเมืองไมอามี-เดดกล่าวว่าพวกเขา “ยังมีความหวัง” ในการหาผู้รอดชีวิต ทีมค้นหาที่ทำงานตลอดเวลาได้รายงานว่าได้ยินเสียงคนกระแทกอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
สาเหตุที่ทำให้อาคารอายุ 40 ปีพังในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดียังคงไม่ชัดเจน
ตอนนี้มีคนอย่างน้อย 102 คนในบัญชีแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ามีกี่คนในอาคารตอนที่พังลงมา ผู้คนหลายสิบคนถูกอพยพออกจากสิ่งปลูกสร้างที่เหลืออยู่
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุมัติการประกาศภาวะฉุกเฉินในฟลอริดา ซึ่งหมายความว่าสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินกลาง (เฟมา) จะช่วยหน่วยงานของรัฐในการบรรเทาทุกข์
เจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายร้อยคนในชั่วข้ามคืนใช้กล้องโซนาร์และสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษเพื่อสำรวจซากปรักหักพังเพื่อหาผู้รอดชีวิต ทีมงานกำลังขุดอุโมงค์จากที่จอดรถใต้ดินใต้อาคารเพื่อพยายามเข้าถึงผู้ประสบภัย
Charles Burkett นายกเทศมนตรีเมือง Surfside ที่เกิดภัยพิบัติ กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าตรู่ว่า 15 ครอบครัวได้เดินออกจากอาคาร
ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะหลับไปแล้วเมื่อการถล่มเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01:00 น. (05:00 GMT)
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ แดเนียลลา เลวีน คาวา นายกเทศมนตรีเมืองไมอามี-เดด กล่าวว่าพวกเขาจะทำ “ทุกวิถีทาง” เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต
“เราจะค้นหาและช่วยเหลือต่อไป เพราะเรายังมีความหวังที่จะพบผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่” เธอกล่าว
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ที่ have-a-look.net
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก www.bbc.com
ขอบคุณรูปภาพจาก รอยเตอร์