ตามรายงานของสื่อหลายแห่งในสหรัฐฯ รวมทั้ง รอยเตอร์และนิวยอร์กไทมส์ ได้เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ นำโดย ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนการในการที่จะบริจาควัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) เป็นจำนวน 500 ล้านโดส ให้กับ 100 ประเทศทั่วโลกในช่วงอนาคตอีกสองปีข้างหน้า
คาดว่าวัคซีนดังกล่าวจะถูกแบ่งเป็น 200 ล้านโดสที่จะบริจาคภายในปีนี้ และอีก 300 ล้านโดสที่จะบริจาคภายในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า โดยจะมีประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง 92 ประเทศ และสหภาพแอฟริกา ที่จะเป็นผู้รับบริจาควัคซีนโควิดเหล่านั้น
รายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯ ยังเปิดเผยด้วยว่า การบริจาคครั้งนี้จะทำผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และพันธมิตรระหว่างประเทศว่าด้วยวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน (GAVI)
คาดว่าประธานาธิบดีไบเดนจะประกาศเรื่องนี้ในการประชุมสุดยอดของผู้นำกลุ่มจี-7 (G-7) ที่ประเทศอังกฤษ ในวันพฤหัสบดีนี้ ตามรายงานของรอยเตอร์
ภาพโดย Alexandra_Koch จาก Pixabay
โดยก่อนที่จะเดินทางไปอังกฤษ ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับวัคซีนโควิดแล้วและจะประกาศเร็ว ๆ นี้ แต่มิได้ระบุรายละเอียดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทั้งทำเนียบขาวและบริษัทไฟเซอร์ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้
ทางด้านสื่อนิวยอร์กไทมส์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ในราคาที่ไม่หวังผลกำไร โดยที่ซีอีโอของไฟเซอร์จะเข้าร่วมกับประธานาธิบดีไบเดนในการประกาศข้อตกลงครั้งนี้ด้วย
นิวยอร์กไทมส์รายงานด้วยว่า ข้อตกลงใหม่จะทำให้จำนวนวัคซีนที่สหรัฐฯ สั่งซื้อจากไฟเซอร์ทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านโดส
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ที่ have-a-look.net
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก www.voathai.com
ภาพโดย janeb13 จาก Pixabay