เมื่อชีวิตประจำวันของคนเราในแต่ละวันต้องสัมผัสกับสภาพอากาศที่หลากหลาย ทั้งอากาศร้อน หนาวเย็น
ลมพัด และแสงแดด จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่สภาพผิวพรรณมักมีปัญหาหรือเกิดการเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะอาการปากแห้ง ริมฝีปากของเราเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย
เพราะไม่สามารถผลิตน้ำมันออกมาเพื่อปกป้องผิวจากการแห้งได้ จึงทำให้เกิดการแห้งแตก ลอกเป็นขุย
ตกสะเก็ด เจ็บแสบ บวม หรือบางคนอดไม่ได้ที่จะดึงหรือกัดเล่นจนเลือดออกในที่สุด
อาหารบำรุงริมฝีปาก
รับประทานอาหารให้ถูกหลัก รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี เช่น ธัญพืชไม่ชัดขาว ผักใบเขียว
ถั่วเปลือกแข็ง อาหารที่มีวิตามินเอ วิตามินซี ผลไม้ตระกูลเบอรี่ ผักใบเขียว ไข่ กระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง
รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
1. สตรอเบอร์รี่ (Strawberry)
สตรอเบอร์รี่เนี่ยมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสามารถฟื้นฟูสภาพผิวจากการถูกแสงแดดเยอะ ๆ ได้
ทีนี้นอกจากริมฝีปากจะไม่โดนทำร้ายด้วยแสงแดดแล้ว ผิวพรรณเองก็พลอยได้รับการฟื้นฟูไปด้วย
2. ทับทิม (Pomegranate)
“ทับทิม” มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของร่างกาย ฉะนั้น ถ้าปัญหาคือปากแห้ง
ทับทิมคือตัวช่วยของคุณจ้า
3. มะนาว หรือ เลมอน (Lime or Lemon)
ใครมีปัญหาริมฝีปากดำคล้ำ “มะนาว” หรือ “เลมอน” อุดมไปด้วยวิตามินซี และ “ซิตรัส” ที่อยู่ในมะนาว
หน้าที่ของเจ้าซิตรัสก็คือการลอกหรือเอาริมฝีปากดำ ๆ ออกไป และฟื้นคืนริมฝีปากชุ่มชื้นอมชมพูมาสู่เรา
4. บีตรูท (Beetroot)
บีตรูทเป็นผัก มีอีกชื่อหนึ่งว่า ผักกาดแดง หรือ ผักกาดฝรั่ง มีวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และแคโรทีน
5. มะเขือเทศ (Tomato)
ประโยชน์ของมะเขือเทศยังมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
เช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก
7. ถั่วลิสง งาดำ และเมล็ดอัลมอนด์
อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เหล็ก วิตามินบี 1
วิตามินบี 2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี9
8. ข้าวกล้อง (Brown Rice)
โรคปากนกกระจอกเทศเป็นโรคที่เกิดจากการที่เราขาดวิตามินบี 2 ข้าวกล้องอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 และ วิตามินบี 2
9. ผักใบเขียว (Vegetable)
ผักใบเขียวนานาชนิดอีกด้วย ที่อุดมไปด้วยวิตามันบี 2