รีสอร์ท Sanzhi UFO House ได้ถูกก่อสร้างขึ้น ณ เมืองนิวไทเป ประเทศไต้หวัน โดยการออกแบบรีสอร์ทแห่งนี้จะเน้นความทันสมัย ซึ่งในแต่ละห้องพักสามารถมองวิวทิวทัศน์ได้รอบเลยทีเดียว และยังมีการสร้างสวนน้ำในรีสอร์ทนี้อีกด้วย
หลังจากนั้น 2 ปี การสร้างก็ต้องหยุดชะงักลงไป และกลายเป็นรีสอร์ทร้างตั้งแต่ยังไม่เปิดให้บริการกันเลยทีเดียว โดยบริษัท Hung Kuo Group วางแผนที่จะสร้างรีสอร์สุดหรูไว้ให้สำหรับทหารอเมริกัน เอาไว้สำหรับการพักผ่อน
แต่ว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นดังต้องการ รีสอร์ท Sanzhi UFO House ในเมืองนิวไทเป ไต้หวันมีบรรยากาศที่สุดหรูในสวนน้ำ ที่มีห้องพักเป็นอาคารทรงกลมเรียงต่อกันเป็นแนว มีหน้าต่างกระจกใสรอบด้านและหันหน้ารับวิวทางทะเลเต็ม ๆ
ฟังดูเหมือนจะเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศสุดยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่รีสอร์ทแห่งนี้ไม่เคยเปิดรับแขกเลยแม้แต่คนเดียวเสียงลือเสียงเล่าอ้างต่อๆกันมาว่า ณ ที่ดินริมทะเลแห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นสุสานของทหารชาวดัตช์มาก่อน
และดวงวิญญาณเหล่านั้นไม่พอใจอย่างมากที่มีการก่อสร้างรุกล้ำสถานที่ซึ่งพวกเขาสถิตอยู่มาเป็นเวลานาน จนวิญญาณแค้นต้องออกมาหลอกหลอนคนงานให้จับไข้หัวโกร๋น และบางคนก็ประสบอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้าง ในรูปแบบที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
รีสอร์ทแห่งนี้สร้างทับบนหลุมฝังศพของทหารฮอลแลนด์ มีคนงานหลายคนได้ฝันเห็นทหารชาวยุโรปในชุดโบราณเข้ามาทำร้ายตนเองและในขณะที่กำลังทำการก่อสร้างก็ได้มีคนงานฆ่าตัวตายไปหลายคน โดยไม่ทราบสาเหตุ ที่เลวร้ายที่สุด คือการฆ่าตัวตายของคนงานก่อสร้างหลายราย
ซึ่งไม่เคยมีเหตุหรือสัญญาณบอกล่วงหน้าถึงอาการซึมเศร้าหรือหดหู่แต่อย่างใด ทำให้สถานที่แห่งนี้ กลายเป็นสุสานชวนหลอนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของความตายของทั้งทหารผ่านศึกและคนงานไปโดยปริยาย
ในขณะที่อีกตำนานหนึ่งกล่าวไว้ว่า บริเวณแห่งนี้เคยเป็นรังของมังกรศักดิ์สิทธิ์มาก่อน ซึ่งเชื่อกันว่าไม่ควรมีผู้ใดเข้าไปวุ่นวายหรือรบกวนมังกร เมื่อนำตำนานนี้รวมกับอาถรรพ์วิญญาณหลอน ก็เรียกได้ว่าเป็นที่ดินต้องคำสาปแบบคูณสองเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ที่ have-a-look.net ถึงแม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยเรื่องเล่าอาถรรพ์จนถูกทิ้งร้าง แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวใจที่ต้องการจะลองของเข้าไปค้นหาหรือเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้อย่างผิดกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง
แต่ปัจจุบันยังไม่ทราบกันแน่ชัดว่าสาเหตุการรกร้างของรีสอร์ทแห่งนี้คืออะไรเรียกได้ว่ายังคงเป็นปริศนาลี้ลับกันต่อไป
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก ghoststorys.com