องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
จัดการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การยูเนสโก ครั้งที่ ๒๑๑ (211th session of the Executive Board)
ระหว่างวันที่ ๗ – ๒๑ เมษายน ๒๕๖๔ ในรูปแบบการประชุมทางไกลผ่านโปรแกรม Zoom และ Webcast ของยูเนสโก
มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๕.๐๐ น. ตามเวลาประเทศไทย โดยในช่วงพิธีเปิด
ประธานกรรมการบริหารฯ (Mr. Agapito Mba Mokuy) และผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก (Ms. Audrey Azoulay)
กล่าวต้อนรับ สรุปเหตุการณ์ รายงานโครงการ/กิจกรรม และมติที่สำคัญจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารฯ ครั้งที่ผ่านมา
รวมถึงวาระที่จะพิจารณาในการประชุมครั้งนี้ จากนั้นเป็นการกล่าวถ้อยแถลงของประเทศสมาชิกคณะกรรมการบริหารฯ
(National Statement) ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในฐานะ
ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ และเป็นผู้แทนหลัก
ในองค์ประกอบคณะผู้แทนไทย ได้กล่าวถ้อยแถลงในรูปแบบการบันทึกวีดิทัศน์ โดยได้ชื่นชมประธานกรรมการบริหารฯ
และผู้อำนวยการใหญ่ฯ ในการจัดการประชุมคณะกรรมการบริการฯ ได้อย่างราบรื่นแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากก็ตาม
รวมถึงการเตรียมการเพื่อจัดทำร่างเอกสารยุทธศาสตร์ระยะกลาง (เอกสาร 41/C4) และร่างโครงการและงบประมาณ
(เอกสาร 41/C5) ซึ่งได้รับความร่วมมือและการตอบรับจากประเทศสมาชิกองค์การยูเนสโกอย่างดียิ่ง
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวถึงร่างยุทธศาสตร์ โครงการ และงบประมาณของยูเนสโกฉบับใหม่
ซึ่งจะมีการนำมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบยูเนสโกอีก ๘ ปีข้างหน้าว่า มีความเหมาะสมและ
สร้างความเชื่อมั่นบทบาทของยูเนสโกในการตอบสนองต่อปัญหาท้าทายของโลกพร้อมเน้นย้ำถึงวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน
ของสหประชาชาติ เอกสารทั้งสองฉบับให้ความสำคัญกับการดำเนินงานแบบข้ามสาขา (interdisciplinary approach)
และการทำงานแบบหลอมรวม (Synergy) เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมและโครงการต่างๆ มีความสอดคล้อง
และตอบสนองปัญหาท้าทายของโลกอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญกับวาระเรื่องการพัฒนาแอฟริกา
และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็กด้วย (Small Islands Developing States – SIDS)
ในส่วนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ที่สร้างผลกระทบต่อการศึกษานั้น หลายประเทศ
ได้ทบทวนระบบการศึกษาของตนและใช้โอกาสนี้พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับการเรียน
ในรูปแบบทางไกล เช่น การสร้าง digital platform และบูรณาการความรู้สาขาต่างๆ มากขึ้น
ประเทศไทยส่งเสริมยุทธศาสตร์ของยูเนสโกในเรื่อง Technological Innovation in Education
ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่ ๔ (การศึกษา) ของวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะด้านคุณภาพ
การมีส่วนร่วม ความเท่าเทียม และการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในฐานะที่ยูเนสโกเป็นองค์การหลักของสหประชาชาติ
ที่มีพันธกิจสำคัญในการบรรลุผลตามเป้าหมายที่ ๔ วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงควรสนับสนุนเรื่องการศึกษา
เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Education for Sustainable Development – ESD) และการศึกษา
เพื่อความเป็นพลเมืองโลก (Global Citizenship Education – GCE) โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของเยาวชน
ในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาของโลกอย่างยั่งยืน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่เยาวชนจะต้องได้รับความรู้ ฝึกทักษะ
มีค่านิยมและทัศนคติในแบบอย่างที่จะช่วยให้เกิดสันติภาพ ความอดทนอดกลั้น และความเท่าเทียมในสังคม
ตามเจตนารมณ์ของยูเนสโก
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการยังได้กล่าวสนับสนุนการดำเนินโครงการของยูเนสโก
ภายใต้โครงการ Management of Social Transformation Programme (MOST) ว่าเป็นโครงการ
ที่มีแนวคิดสำคัญสอดคล้องกับการดำเนินงานแบบหลอมรวมระหว่างนักวิชาการหรือนักวิจัยและผู้กำหนดนโยบาย
ซึ่งการมองไปข้างหน้าและวางแผนสำหรับอนาคตนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างกลไกที่ช่วยให้เกิดการตัดสินใจ
อย่างประสิทธิภาพ การตัดสินใจบางอย่างเกี่ยวเนื่องกับการมองอนาคต ภายใต้โครงการ MOST ยังมีแนวคิด
เรื่อง Futures Literacy ซึ่งสร้างความเข้มแข็งและศักยภาพของมนุษย์ในการคาดการณ์และเตรียมการ
เพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น นักเรียนควรได้รับการฝึกฝนเพื่อเตรียมพร้อม
และสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวทิ้งท้ายว่า
ท่ามกลางวิกฤตโลกในขณะนี้ ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกและยูเนสโกเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เผชิญหน้า
กับปัญหาต่างๆ และสร้างอนาคตที่ดีกว่าได้
ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการบริหารฯ ช่วงที่เหลือจะมีการพิจารณาวาระสำคัญภายใต้คณะกรรมการชุดต่างๆ
ได้แก่ คณะกรรมการว่าด้วยอนุสัญญาและข้อเสนอแนะ (Committee of Conventions and Recommendations – CR)
คณะกรรมาธิการว่าด้วยโครงการและความร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ (Programme and External Relations Commission – PX)
และคณะกรรมาธิการว่าด้วยงบประมาณและการบริหาร (Financial and Administrative Commission – FA)
อนึ่ง คณะกรรมการบริหารประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิก จำนวน ๕๘ ประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง
ในช่วงการประชุมสมัยสามัญ ซึ่งจะมีการเลือกตั้งกรรมการจำนวนครึ่งหนึ่งทุก ๒ ปี มีวาระคราวละ ๔ ปี
ทำหน้าที่พิจารณาและติดตามการดำเนินงานของสำนักเลขาธิการของยูเนสโกให้สอดคล้องกับมติการประชุมสมัยสามัญ
แผนยุทธศาสตร์ โครงการ/กิจกรรม และการปฏิบัติงานขององค์การยูเนสโกในภาพรวม รวมทั้งเรื่องงบประมาณ
ประเทศไทยได้รับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารฯ ในช่วงการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโกเมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๒
วาระระหว่างปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๖