เสมา 1 ระดมข้อมูลหารือ รมว.สาธารณสุข จัดความสำคัญฉีดวัคซีนป้องโควิดครูกลุ่มเสี่ยงสูง
ย้ำการเยี่ยมบ้านนักเรียนควรเน้นความปลอดภัย ใช้โทรศัพท์-สื่อสารออนไลน์แทนตามความจำเป็น
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้หารือกับ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.)
ในเรื่องของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา
ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับนักเรียน นักศึกษา และประชาชน หากครูและ
บุคลากรทางการศึกษาติดเชื้อ อาจจะกลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์หรือก่อให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่
ในเบื้องต้นจึงมีแนวคิดที่จะฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยจัดลำดับความสำคัญให้กับ
ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่อยู่ในจังหวัดพื้นที่สีแดงและมีความเสี่ยงสูงก่อน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามความสมัครใจของทุกคน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.)
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)
สำรวจจำนวนครูและบุคลากรในแต่ละจังหวัด จำแนกตามพื้นที่ที่มีความเสี่ยงตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบการหารือกับ ศบค.ต่อไป
สำหรับกรณีที่มีผู้เสนอแนะให้ทบทวนนโยบายครูเยี่ยมบ้านนักเรียน ได้เน้นย้ำถึงความปลอดภัยของทั้งครู นักเรียน และผู้ปกครอง
อาจจะปรับรูปแบบการเยี่ยมบ้านได้หลายวิธี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ช่วงนี้ โดยครูไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ไปที่บ้านนักเรียนจริง ๆ
แต่สามารถใช้โทรศัพท์ หรือสื่อสารผ่านทางช่องทางออนไลน์ หรือวิธีอื่นใดที่สะดวก เพื่อพูดคุยสอบถามสร้างความอบอุ่นใจ
ให้แก่นักเรียน ผู้ปกครอง รวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ และการดูแลตนเองในช่วงที่ไม่ได้มาโรงเรียน