โดย นายเมอร์ริค การ์แลนด์ รัฐมนตรีว่าการแห่งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริหา ได้ประกาศในวันจันทร์ว่าจะเริ่มการสืบสวนสำนักงานตำรวจและรัฐบาลส่วนท้องถิ่นเมืองลุยซ์วิลล์ รัฐเคนตักกี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ยิงสังหารสตรีผิวดำ บรีออนนา เทย์เลอร์ (Breonna Taylor) ระหว่างการบุกค้นบ้านของเธอเมื่อปีที่แล้ว
การสืบสวนครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่การตรวจสอบว่า การกระทำดังกล่าวของตำรวจเมืองลุยซ์วิลล์ รวมทั้งตำรวจในท้องที่เขตลุยซ์วิลล์-เจฟเฟอร์วัน เคาน์ตี้ เป็นปฏิบัติการอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นเป็นประจำหรือไม่ มีอคติเรื่องสีผิวและการเลือกปฏิบัติเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และถือเป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และขัดกับหลักกฎหมายและรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ หรือไม่
บรีออนนา เทย์เลอร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเมืองลุยซ์วิลล์ ถูกยิงใส่หลายนัดอย่างผิดตัวในบ้านของเธอเอง เมื่อตำรวจผิวขาวบุกจับตัวผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดในชุมชนที่เธออาศัยอยู่เมื่อเดือนมีนาคมเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ปีที่แล้ว
อัยการของรัฐเคนตักกี แดเนียล แคเมอรอน สังกัดพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นอัยการผิวดำคนแรกของรัฐนี้ กล่าวปกป้องการกระทำของตำรวจว่าอยู่ภายใต้มาตรการบุกจับตัวผู้ต้องสงสัยในที่พักโดยไม่มีการเคาะประตู หรือ no-knock warrants และทางตำรวจได้ตะโกนบอกล่วงหน้าแล้วก่อนที่จะบุกเข้าไปในห้องนั้น โดยตำรวจทั้งสามคนลั่นไกเพื่อปกป้องตัวเอง เนื่องจากเพื่อนชายของเทย์เลอร์ได้ยิงใส่ตำรวจก่อนทำให้ตำรวจต้องยิงสวนออกไปหลายนัด
หมายค้นดังกล่าวเชื่อมโยงไปถึงผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดซึ่งไม่ได้อาศัยอยู่ที่นั่น และไม่พบยาเสพติดในห้องของเทย์เลอร์แต่อย่างใด ต่อมาทางการเมืองลุยซ์วิลล์ได้สั่งยกเลิกหมายค้นแบบ no-knock warrants ดังกล่าว โดยเหตุการณ์นี้นำไปสู่คำตัดสินเอาผิดต่อหนึ่งในตำรวจสามคน คือ เบรตต์ แฮงกิสัน (Brett Hankison)
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน รับปากว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะเดินหน้าปฏิรูปการทำงานของตำรวจและยุติการกระทำที่เข้าข่ายเลือกปฏิบัติและเหยียดสีผิวอย่างเป็นระบบ
โดยทั้งประธานาธิบดีไบเดน ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ที่ have-a-look.net และรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปการทำงานของตำรวจภายใต้ชื่อ “กฎหมายจอร์จ ฟลอยด์” เมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก www.voathai.com