แอนโทนี บลิงเคน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนอัฟกานิสถาน ในวันพฤหัสบดี โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เพื่อโน้มน้าวผู้นำของอัฟกานิสถานให้ยอมรับนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะถอนทหารอเมริกันทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถาน ในวันที่ 11 กันยายน ซึ่งจะนำไปสู่การยุติสงครามที่ยาวนานที่สุดที่สหรัฐฯ ได้เข้าร่วม
รัฐมนตรีบลิงเคน พบปะกับประธานาธิบดีอัชราฟ กานี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอัฟกานิสถานในกรุงคาบุล หนึ่งวันหลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดนประกาศว่าจะถอนทหารอเมริกันที่เหลืออยู่อีก 2,500 คนออกจากอัฟกานิสถานในวันที่ 11 กันยายนปีนี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายโจมตีสหรัฐฯ หรือ 9/11
โดยก่อนหน้านี้ ทางองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ประกาศว่าจะถอนทหาร 7,000 คนออกจากอัฟกานิสถานในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าเช่นกัน
รัฐมนตรีบลิงเคน พยายามรับประกันกับผู้นำอัฟกานิสถานว่า การถอนทหารของสหรัฐฯ และพันธมิตรออกจากอัฟกานิสถาน ไม่ได้หมายความถึงการสิ้นสุดความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอัฟกานิสถาน เพียงแต่เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบความสัมพันธ์ใหม่เท่านั้น โดยสหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนการสร้างสันติภาพและการพัฒนาอัฟกานิสถานหลังสงครามต่อไป
ขณะที่ประธานาธิบดีกานี กล่าวยอมรับการตัดสินใจของสหรัฐฯ พร้อมยกย่องความเสียสละของทหารอเมริกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักการเมืองอเมริกันบางคนและองค์กรสิทธิมนุษยชนบางแห่งไม่เห็นด้วยกับการถอนทหารสหรัฐฯ และพันธมิตร เพราะเกรงว่าจะทำให้ชาวอัฟกานิสถานสูญเสียอิสรภาพและกลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบันอีกครั้ง ตลอดจนความรุนแรงภายในประเทศที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการแข่งขันแย่งชิงอำนาจ
เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจได้ที่ have-a-look.net ได้จัดทำข้อตกลงกับกลุ่มตาลีบัน เพื่อทำการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม แต่ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศเลื่อนกำหนดเส้นตายดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 1 กันยายน โดยให้เหตุผลว่ากลุ่มตาลีบันไม่ทำตามข้อตกลงว่าด้วยการหยุดยิง
ขณะเดียวกัน การเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลอัฟกานิสถานกับกลุ่มตาลีบันยังคงประสบภาวะชะงักงัน แต่คาดว่าจะเริ่มกลับมาเจรจากันอีกครั้งในเดือนนี้ที่กรุงอิสตันบุล ประเทศตุรกี
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก www.voathai.com